เช็คด่วน ‼️ วิธีทดสอบสภาพผิวหน้าง่ายๆว่าคุณมีผิวแบบไหน
- Lithz Thailand
- 14 พ.ค. 2563
- ยาว 1 นาที
เช็คด่วน ‼️ วิธีทดสอบสภาพผิวหน้าง่ายๆ ว่าคุณมีผิวแบบไหน

สาวๆหลายคนอาจมีคำถามว่า
สภาพผิวของตนเองนั้นเป็นผิวประเภทไหน
จะสังเกตได้อย่างไร
และจะเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้า
ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนอย่างไร
วันนี้ไลทซ์จะมาไขข้อสงสัยให้กับคุณเองค่ะ😊

ผิวธรรมดา (normal skin type)
เป็นผิวที่ไม่แห้งและไม่มันจนเกินไป คนที่มีผิวหน้าธรรมดา มักจะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้
• มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้าน้อย โดยเฉพาะเรื่องกระ ฝ้า หรือสิว
• ผิวหน้ามักไม่แพ้อย่างรุนแรง ถ้าแพ้ก็แพ้แบบเล็กน้อย
• รูขุมขนไม่กว้างมาก รูขุมขนที่มองเห็นได้ชัดเจนมีน้อย
• เห็นได้ชัดเจนว่าผิวหน้ามีความกระจ่างใส

ผิวแห้ง (dry skin type)
ผิวแห้งมักจะแห้งกร้าน แตก ลอก หรืออาจอักเสบและคันได้ง่ายในกรณีที่ผิวแห้งมาก ๆ ผิวหนังมักจะหลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ
ซึ่งลักษณะผิวแบบนี้ เป็นลักษณะผิวที่บอบบางเป็นอย่างมาก
จะรู้ได้อย่างไรว่าลักษณะผิวเป็นผิวแห้ง
• มักมองไม่เห็นรูขุมขนเลย หรือเห็นได้น้อยมาก ๆ
• ผิวไม่ค่อยกระจ่างใส แห้งกร้าน
• มีผื่นแดง ๆ หรือรอยแดง ๆ ที่ผิว
• ผิวมีความยืดหยุ่นน้อย
• เห็นรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ได้อย่างชัดเจน
ปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาที่เกิดจากผิวแห้ง ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
• สภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศเย็น แห้ง หรือมีลมพัดแรง
• แสงแดด รังสียูวี
• การอาบน้ำที่นานเกินไป โดยเฉพาะการอาบน้ำอุ่น
• สบู่และเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง
• ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ
จะดูแลผิวแห้งอย่างไร ให้สดใส ไม่แห้งกร้าน
1. ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีความอ่อนโยน ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง
2. ไม่ควรขัดผิวบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน
3. ทุกครั้งหลังอาบน้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น (moisturizer) ที่ออกแบบมาสำหรับผิวแห้ง
4. ในกรณีที่ผิวแห้งมาก อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เป็นครีม (creams) มากกว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบโลชั่น(lotions)
เนื่องจากครีมจะมีความเป็นน้ำมัน และจะกักเก็บความชื้นให้ผิวได้มากกว่า

ผิวผสม (combination skin type)
สำหรับใครที่มีผิวผสม ผิวหน้าของคุณอาจเป็นผิวธรรมดา บางบริเวณอาจเป็นผิวแห้ง หรือเป็นผิวมัน โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่าทีโซน (T-zone)
ซึ่งรวมตั้งแต่ผิวหน้าบริเวณจมูก หน้าผาก และแก้ม ซึ่งลักษณะผิวในแต่ละบริเวณต่างก็ต้องการดูแลอย่างเฉพาะเจาะจง
ใครที่มีผิวผสม มักจะสังเกตผิวตนเองได้ดังนี้
• รูขุมขนมักจะกว้างกว่าผิวธรรมดา และรูขุมขนมักจะเปิด
• เนื่องจากรูขุมขนเปิด มักจะมีสิวอุดตันหัวดำ (blackhead) เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณทีโซน
• ผิวมักจะมีความมันเงา
•หลังล้างหน้า(เช็ดหน้าและปล่อยไว้สักพักโดยไม่ลงครีมบำรุง ) ผิวบางส่วนโดยเฉพาะบริเวณแก้มจะรู้สึกแห้งตึง
แต่เเฉพาะบริเวณ T-ZONE จะรู้สึกว่าผิวมัน และสังเกตว่าบริเวณจมูกมักมีสิวเสื้ยนเสมอๆ
การดูแลผิวผสม
การทำความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนสำหรับผิวหน้าล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ทาในส่วนที่ผิวแห้ง
ควบคุมความมัน ให้ใช้กระดาษซับมันในส่วนที่มัน
ป้องกัน ให้ใช้ครีมกันแดดทุกวัน และอย่างต่ำต้อง SPF15
รู้เรื่อง T-ZONE
T-ZONE คือส่วนของใบหน้าที่ประกอบไปด้วย หน้าผาก จมูก และบริเวณรอบๆปากและรวมไปถึงคางด้วยค่ะ
ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า ลักษณะส่วนประกอบทั่งหมดนั้น ต้องรวมกันแล้วเป็นสัญญลักษณ์ตัว T
บ่อยครั้งที่บริเวณ T-ZONE จะมัน เพราะต่อมน้ำมันจะมีมากกว่าบริเวณในส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดสิวเสี้ยน สิวหัวขาว
หรือ สิวหัวช้างได้อย่างง่ายๆ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับกรรมพันธ์ด้วย เราไม่สามารถรักษาปัญหานี้ได้แต่เราก็จัดการกับมันได้
การแก้ปัญหา T-ZONE มีหลายวิธีค่ะ
-พยายามอย่าจับใบหน้า อย่าให้ผมปรกหน้า เพราะว่มือและผมที่สกปรกจะทำให้บริเวณนั้นยิ่งสกปรกทำให้เป็นสิวอุดตันได้
-เลือกแชมพู สำหรับผมมันเพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากเส้นผม
-ล้างหน้าด้วยสบู่เหลว หรือ สบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของ AHAs หรือประกอบด้วย salicylic acid หรือ benzoyl peroxide หรือทั้งสองอย่าง
-ใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของ salicylicacid หรือ benzol peroxide หรือทั้งสองอย่าง ในประมาณที่เล็กน้อยกับส่วนที่มีผลกระทบ
-ให้ระมัดระวังในบริเวณคาง ซึ่งถ้าใช้มากจะทำให้ผิวส่วนนี้แห้ง หรือสอบถามได้จากเภสักร เพื่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง
-แป้งตลับจะช่วยดูดซับน้ำมันออกไป
-พยายามห่างจากห้องครัวโดยเฉพาะเวลาที่มีการทำอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน เช่น การทอด เพราะน้ำมันจะยิ่งทำให้ใบหน้าแย่ไปอีก
-อย่าพยายามยุ่งกับผิวที่อักเสบ โดยเฉพาะสิว

ผิวมัน (oily skin type)
ผิวมันมักเกิดขึ้นในช่วยวัยรุ่น ช่วงที่ฮอร์โมนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ความร้อน และความชื้นของสภาพอากาศ
นอกจากนี้ความเครียดก็ส่งผลทำให้ผิวมีความมันส่วนเกินได้เช่นกัน
ลักษณะของผิวมันที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน
• รูขุมขนขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
• ผิวดูมันวาว จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำ
• ปัญหาสิวเป็นปัญหาเด่นของผิวมัน ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ
การดูแลผิวมันให้ผิวพรรณของคุณมีสุขภาพดี
1. ผิวมันมักจะเกิดสิวได้ง่าย แต่ให้จำไว้ว่า การบีบสิวจะเป็นการกระตุ้น ทำให้สิวเกิดขึ้นมาอีก รวมถึงทำให้เกิดสิวอักเสบ และรอยด่างดำ
2. ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง การล้างหน้าบ่อย จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นการกระตุ้นทำให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากขึ้น
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมัน
4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (noncomedogenic) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้
5.เวลาเลือกเครื่องสำอางโดยเฉพาะครีมรองพื้น และ บลัชออน เลือกที่เป็น OIL-FREE เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากน้ำจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันรวมถึงครีมรองพื้นชนิดที่สามารถดูดซับความมัน จะช่วนให้น้ำมันบนใบหน้าน้อยลง
6.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงเอาน้ำมันส่วนเกินออกไปได้อย่าพยายามให้เอาน้ำมันออกมากเกินไปจะทำให้หน้าเยิ้ม
7.ใช้กันแดดชนิดไม่มีน้ำมัน

ผิวแพ้ง่าย (sensitive skin)
นอกจากผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวธรรมดาแล้ว อีกหนึ่งลักษณะผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ คือ ผิวที่แพ้ง่าย (sensitive skin)
ลักษณะของผิวแพ้ง่าย สามารถสังเกตได้ดังนี้
• ผิวมีการอักเสบได้ง่าย ลักษณะเด่นชัดของการอักเสบ คือ ผิวแดง คัน แสบร้อน รวมถึงแตกแห้ง
• มักเกิดหลังจากการใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง
ถ้าคุณรู้ว่าผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นการแพ้ โดยเฉพาะสารและองค์ประกอบบางชนิดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
Comments