top of page

เช็คด่วน ‼️ วิธีทดสอบสภาพผิวหน้าง่ายๆว่าคุณมีผิวแบบไหน

เช็คด่วน ‼️ วิธีทดสอบสภาพผิวหน้าง่ายๆ ว่าคุณมีผิวแบบไหน



สาวๆหลายคนอาจมีคำถามว่า

สภาพผิวของตนเองนั้นเป็นผิวประเภทไหน

จะสังเกตได้อย่างไร

และจะเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้า

ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนอย่างไร

วันนี้ไลทซ์จะมาไขข้อสงสัยให้กับคุณเองค่ะ😊




ผิวธรรมดา (normal skin type)


เป็นผิวที่ไม่แห้งและไม่มันจนเกินไป คนที่มีผิวหน้าธรรมดา มักจะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้


• มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้าน้อย โดยเฉพาะเรื่องกระ ฝ้า หรือสิว

• ผิวหน้ามักไม่แพ้อย่างรุนแรง ถ้าแพ้ก็แพ้แบบเล็กน้อย

• รูขุมขนไม่กว้างมาก รูขุมขนที่มองเห็นได้ชัดเจนมีน้อย

• เห็นได้ชัดเจนว่าผิวหน้ามีความกระจ่างใส




ผิวแห้ง (dry skin type)


ผิวแห้งมักจะแห้งกร้าน แตก ลอก หรืออาจอักเสบและคันได้ง่ายในกรณีที่ผิวแห้งมาก ๆ ผิวหนังมักจะหลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ


ซึ่งลักษณะผิวแบบนี้ เป็นลักษณะผิวที่บอบบางเป็นอย่างมาก

จะรู้ได้อย่างไรว่าลักษณะผิวเป็นผิวแห้ง


• มักมองไม่เห็นรูขุมขนเลย หรือเห็นได้น้อยมาก ๆ

• ผิวไม่ค่อยกระจ่างใส แห้งกร้าน

• มีผื่นแดง ๆ หรือรอยแดง ๆ ที่ผิว

• ผิวมีความยืดหยุ่นน้อย

• เห็นรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ได้อย่างชัดเจน


ปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาที่เกิดจากผิวแห้ง ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


• สภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศเย็น แห้ง หรือมีลมพัดแรง

• แสงแดด รังสียูวี

• การอาบน้ำที่นานเกินไป โดยเฉพาะการอาบน้ำอุ่น

• สบู่และเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง

• ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ


จะดูแลผิวแห้งอย่างไร ให้สดใส ไม่แห้งกร้าน


1. ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีความอ่อนโยน ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง

2. ไม่ควรขัดผิวบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน

3. ทุกครั้งหลังอาบน้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น (moisturizer) ที่ออกแบบมาสำหรับผิวแห้ง

4. ในกรณีที่ผิวแห้งมาก อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เป็นครีม (creams) มากกว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบโลชั่น(lotions)


เนื่องจากครีมจะมีความเป็นน้ำมัน และจะกักเก็บความชื้นให้ผิวได้มากกว่า




ผิวผสม (combination skin type)


สำหรับใครที่มีผิวผสม ผิวหน้าของคุณอาจเป็นผิวธรรมดา บางบริเวณอาจเป็นผิวแห้ง หรือเป็นผิวมัน โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่าทีโซน (T-zone)


ซึ่งรวมตั้งแต่ผิวหน้าบริเวณจมูก หน้าผาก และแก้ม ซึ่งลักษณะผิวในแต่ละบริเวณต่างก็ต้องการดูแลอย่างเฉพาะเจาะจง


ใครที่มีผิวผสม มักจะสังเกตผิวตนเองได้ดังนี้


• รูขุมขนมักจะกว้างกว่าผิวธรรมดา และรูขุมขนมักจะเปิด

• เนื่องจากรูขุมขนเปิด มักจะมีสิวอุดตันหัวดำ (blackhead) เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณทีโซน

• ผิวมักจะมีความมันเงา


•หลังล้างหน้า(เช็ดหน้าและปล่อยไว้สักพักโดยไม่ลงครีมบำรุง ) ผิวบางส่วนโดยเฉพาะบริเวณแก้มจะรู้สึกแห้งตึง


แต่เเฉพาะบริเวณ T-ZONE จะรู้สึกว่าผิวมัน และสังเกตว่าบริเวณจมูกมักมีสิวเสื้ยนเสมอๆ


การดูแลผิวผสม


การทำความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนสำหรับผิวหน้าล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ทาในส่วนที่ผิวแห้ง

ควบคุมความมัน ให้ใช้กระดาษซับมันในส่วนที่มัน

ป้องกัน ให้ใช้ครีมกันแดดทุกวัน และอย่างต่ำต้อง SPF15


รู้เรื่อง T-ZONE


T-ZONE คือส่วนของใบหน้าที่ประกอบไปด้วย หน้าผาก จมูก และบริเวณรอบๆปากและรวมไปถึงคางด้วยค่ะ


ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า ลักษณะส่วนประกอบทั่งหมดนั้น ต้องรวมกันแล้วเป็นสัญญลักษณ์ตัว T


บ่อยครั้งที่บริเวณ T-ZONE จะมัน เพราะต่อมน้ำมันจะมีมากกว่าบริเวณในส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดสิวเสี้ยน สิวหัวขาว


หรือ สิวหัวช้างได้อย่างง่ายๆ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับกรรมพันธ์ด้วย เราไม่สามารถรักษาปัญหานี้ได้แต่เราก็จัดการกับมันได้


การแก้ปัญหา T-ZONE มีหลายวิธีค่ะ


-พยายามอย่าจับใบหน้า อย่าให้ผมปรกหน้า เพราะว่มือและผมที่สกปรกจะทำให้บริเวณนั้นยิ่งสกปรกทำให้เป็นสิวอุดตันได้

-เลือกแชมพู สำหรับผมมันเพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากเส้นผม

-ล้างหน้าด้วยสบู่เหลว หรือ สบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของ AHAs หรือประกอบด้วย salicylic acid หรือ benzoyl peroxide หรือทั้งสองอย่าง

-ใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของ salicylicacid หรือ benzol peroxide หรือทั้งสองอย่าง ในประมาณที่เล็กน้อยกับส่วนที่มีผลกระทบ

-ให้ระมัดระวังในบริเวณคาง ซึ่งถ้าใช้มากจะทำให้ผิวส่วนนี้แห้ง หรือสอบถามได้จากเภสักร เพื่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง

-แป้งตลับจะช่วยดูดซับน้ำมันออกไป

-พยายามห่างจากห้องครัวโดยเฉพาะเวลาที่มีการทำอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน เช่น การทอด เพราะน้ำมันจะยิ่งทำให้ใบหน้าแย่ไปอีก

-อย่าพยายามยุ่งกับผิวที่อักเสบ โดยเฉพาะสิว




ผิวมัน (oily skin type)


ผิวมันมักเกิดขึ้นในช่วยวัยรุ่น ช่วงที่ฮอร์โมนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ความร้อน และความชื้นของสภาพอากาศ


นอกจากนี้ความเครียดก็ส่งผลทำให้ผิวมีความมันส่วนเกินได้เช่นกัน


ลักษณะของผิวมันที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน


• รูขุมขนขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

• ผิวดูมันวาว จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำ

• ปัญหาสิวเป็นปัญหาเด่นของผิวมัน ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ


การดูแลผิวมันให้ผิวพรรณของคุณมีสุขภาพดี


1. ผิวมันมักจะเกิดสิวได้ง่าย แต่ให้จำไว้ว่า การบีบสิวจะเป็นการกระตุ้น ทำให้สิวเกิดขึ้นมาอีก รวมถึงทำให้เกิดสิวอักเสบ และรอยด่างดำ

2. ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง การล้างหน้าบ่อย จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นการกระตุ้นทำให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากขึ้น

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมัน

4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (noncomedogenic) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้

5.เวลาเลือกเครื่องสำอางโดยเฉพาะครีมรองพื้น และ บลัชออน เลือกที่เป็น OIL-FREE เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากน้ำจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันรวมถึงครีมรองพื้นชนิดที่สามารถดูดซับความมัน จะช่วนให้น้ำมันบนใบหน้าน้อยลง

6.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงเอาน้ำมันส่วนเกินออกไปได้อย่าพยายามให้เอาน้ำมันออกมากเกินไปจะทำให้หน้าเยิ้ม

7.ใช้กันแดดชนิดไม่มีน้ำมัน




ผิวแพ้ง่าย (sensitive skin)


นอกจากผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวธรรมดาแล้ว อีกหนึ่งลักษณะผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ คือ ผิวที่แพ้ง่าย (sensitive skin)


ลักษณะของผิวแพ้ง่าย สามารถสังเกตได้ดังนี้


• ผิวมีการอักเสบได้ง่าย ลักษณะเด่นชัดของการอักเสบ คือ ผิวแดง คัน แสบร้อน รวมถึงแตกแห้ง

• มักเกิดหลังจากการใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง

ถ้าคุณรู้ว่าผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นการแพ้ โดยเฉพาะสารและองค์ประกอบบางชนิดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ








 
 
 

Comments


©2017 by Lithz Thailand.

  • LINE
  • Twitter
  • Instagram
  • facebook
bottom of page